วันจันทร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

โรคหอบหืด

โรคหอบหืดเป็นโรคของหลอดลมที่มีการอักเสบเรื้อรัง (Chronic inflammatory) เป็นผลให้มี cell ต่างๆ เช่น mast cell, eosinophils, T-lymphocyte, macrophage, neutrophil มาสะสมที่เยื่อบุผนังหลอดลม ทำให้เยื่อบุผนังหลอดลมมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อสารภูมิแพ้ และสิ่งแวดล้อมมากกว่าคนปกติ (bronchial hyper-reactivity) ผลจากการอักเสบจึงทำให้เยื่อบุผนังหลอดลมมีการหนาตัว กล้ามเนื้อหลอดลมมีการหดเกร็งตัว ทำให้ผู้ป่วยมีอาการไอ แน่นหน้าอก หายใจมีเสียงหวีด และหอบเหนื่อย อาการหอบเหนื่อยจะเกิดขึ้นทันทีที่ได้รับสารภูมิแพ้

การวินิจฉัยโรคหอบหืด
แพทย์จะวินิจฉัยโดยอาศัยประวัติ การตรวจร่างกาย และการตรวจสมรรถภาพปอด

เมื่อไรจึงจะสงสัยว่าเป็นโรคหอบหืด
หากคุณมีอาการดังต่อไปนี้ควรไปพบแพทย์ เพื่อการตรวจ Spirometry เพื่อการวินิจฉัยว่าเป็นหอบหืดหรือไม่
1. มีประวัติ ไอ แน่นหน้าอก หายใจมีเสียงดังหวีด และหอบเป็นๆหายๆ
2. มีอาการหอบหืดเกิดขึ้นทันที่เมื่อได้รับสิ่งกระตุ้น และอาการดังกล่าวจะหายไปได้เอง หรือหายไปเมื่อได้ยาขยายหลอดลม
3. ผู้ป่วยที่ไม่ได้รับการรักษาจะมีหอบหืดเกิดขึ้นหรือเป็นมากขึ้นในเวลากลางคืน
4. มีประวัตผื่นคัน อาการคันและอักเสบของเยื่อบุตา อาการคัดจมูกเรื้อรังหรืออาการจาม
5. มีประวัติหอบหืดในครอบครัว
6. อาการหอบหืดจะเกิดหรือเป็นมากขึ้นในภาวะดังต่อไปนี้
• หลังออกกำลังกาย
• เป็นไข้หวัด
• ควันบุหรี่
• เกศรดอกไม้
• รังแคสัตว์
• ฝุ่นจากหมอน พรม ผ้าห่ม
• อุณหภูมิเปลี่ยนแปลง
• อารมณ์ผันผวน
• สารเคมีเช่นกลิ่นสี spray
• ยา เช่น Aspirin
ภาวะอื่นๆที่พบร่วมกับโรคหอบหืด
• อาการภูมิแพ้
• อาการคัดจมูก น้ำมูกไหล หรือไซนัสอักเสบ
• การที่มีภาวะกรดในกระเพาะอาหารไหลย้อน gastroesophageal reflux disease

สาเหตุของโรคหอบหืด
ช่วงที่ไม่มีอาการของโรคหอบหืด ผู้ป่วยจะเหมือนคนปกติ ไม่หอบ ไม่แน่นหน้าอก เล่นกีฬาได้ แต่เมื่อผู้ป่วยได้รับสารที่เป็นภูมิแพ้ผู้ป่วยจะเกิดอาการหอบ แน่นหน้าอก และไอ สำหรับสารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้แบ่งได้เป็นหัวข้อดังนี้
• สารภูมิแพ้ในบ้าน
• สารภูมิแพ้นอกบ้าน

สารภูมิแพ้ในบ้าน
แม้ว่าบ้านจะเป็นที่ปลอดภัยสำหรับตัวท่าน หากคุณเป็นโรคหอบหืด บ้านก็อาจจะเป็นแหล่องที่กระตุ้นให้เกิดอาการหอบหืด คุณควรจะจัดสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม สารก่อภูมิแพ้หลายชนิดเช่น รา เกสรดอกไม้ มลภาวะ ก็สามารถพบได้ในบ้านของท่าน หากคุณทราบชนิดของสารภูมิแพ้ต้องพยายามหลีกเลี่ยงสารภูมิแพ้ต่างๆ เนื่องจากหากได้รับสารภูมิแพ้นานๆ ทำให้โรคหอบหืดกำเริบเฉียบพลันได้บ่อยและอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตได้

สารภูมิแพ้จากสัตว์เลี้ยง (Animal Allergen)
สารภูมิแพ้จากสัตว์เลี้ยงเช่น สุนัข แมว หนู นก สารที่ทำให้เกิดภูมิแพ้ได้แก่ รังแค ขน ปัสสาวะ อุจาระ น้ำลาย หากคุณแพ้คุณควรที่จะป้องกันดังต่อไปนี้
• ย้ายสัตว์และขนสัตว์ออกจากบริเวรบ้าน ถ้าไม่สามารถย้ายออกจากบ้านให้ เอาขนสัตว์ออกจากห้องนอน
• ปิดประตูห้องนอนติดเครื่องกรองอากาศที่มีแผ่นกรอง HEPA ก่อนที่อากาศจะเข้าห้อง
• ไม่ใช้พรมในห้องนอน
• อาบน้ำให้สัตว์อาทิตย์ละสองครั้ง
• ทำความสะอาดบ้านบ่อยๆโดยใช้เครื่องดูดฝุ่นที่มีแผ่นกรอง HEPA
• หุ้มปลอกหมอนและเตียงด้วยสารป้องกันภูมิแพ้
• เลี้ยงปลาได้

สารภูมิแพ้จากไรฝุ่น (House-Dust Mite Allergen)
พบไรฝุ่นมากในที่มีความชื้นสูง พบร่วมกับฝุ่นที่มาจากเสื่อ หมอน พรม ผ้าคลุมเตียง เสื้อผ้า ตุ๊กตาควรจัดห้องให้ปลอดฝุ่นวิธีป้องกันไรฝุ่นทำได้ดังนี้
• หุ้มหมอน เตียง เสื่อด้วยสารป้องกันภูมิแพ้
• ล้างปลอกหมอน ผ้าคลุมเตียงทุกสัปดาห์โดยใช้น้ำร้อนมากกว่า 55 ํC
• ลดความชื้นของห้องนอนให้น้อยกว่า 50%โดยใช้เครื่องลดความชื้น
• นำพรมออกจากห้องนอน
• ไม่ควรนำตุ๊กตาไว้ในห้องนอน ควรจะล้างทุกอาทิตย์ด้วยน้ำร้อน

สารภูมิแพ้จากแมลงสาบ (Cockraches Alergen)
เป็นสาเหตุที่ทำให้หอบหืดเป็นมากขึ้น น้ำลาย ปัสสาวะ อุจาระ ผิวหนังของแมลงสาบเป็นสารภูมิแพ้สำหรับบางคนควรกำจัดแมลงสาบให้หมดจากบ้านไม่ควรเหลือเศษอาหารให้แมลงสาบ อาหารควรเก็บไวในถุงที่ปิดสนิท ควรใช้กับดักหรือกรงมากกว่าสารเคมีเพราะอาจเกิดการแพ้ได้ จัดการรูรั่วของประปา

สารภูมิแพ้จากอาหาร (Food Allergies)
ผู้ป่วยที่แพ้อาหารนอกจากทำให้เกิดผื่น ปวดท้อง ท้องเสียยังทำให้เกิดอาการหายใจลำบาก วิธีป้องกันคือ จำให้ได้ว่าแพ้อาหารอะไรแล้วหลีกเลี่ยง ให้อ่านสลากเพื่อดูส่วนผสมว่ามีสิ่งที่แพ้หรือไม่

เชื้อราภายในบ้าน (Indoor Fungi)
รามีมากในที่ชื้น และอากาศถ่ายเทไม่ดี เช่นห้องน้ำ ห้องเก็บของ ควรแก้ไขท่อน้ำที่รั่ว ทำความสะอาดบริเวนที่มีเชื้อรา ลดความชื้นในห้องนอนให้น้อยกว่า50%
• ทำความสะอาดบริเวณที่คิดว่ามีเชื้อรา เช่นห้องน้ำ ห้องครัวอาจจะใช้ยาฆ่าเชื้อรา
• ระบบถ่ายเทน้ำต้องไม่มีการขัง
• ใช้เครื่องลดความชื้น
• ใช้พัดลมดูดอากาศในห้องน้ำ ห้องครัว
• ลดการปลุกต้นไม้ ใช้ดอกไม้พลาสติกแทนดอกไม้จริง
• ทำความสะอาดท่อระบายน้ำทุก 5 ปี

สารเคมี
สารเคมีที่ใช้ในบ้านอาจจะกระตุ้นให้อาการหอบหืดเป็นมากขึ้น เช่น กลิ่นสี ยาฆ่าแมลง สเปรย์แต่งผม รวมทั้งควันบุหรี่ ควันจากเตาไฟ

โรคหอบหืดที่เกิดจากงาน
ผู้ที่เปลี่ยนงานแล้วเกิดโรคหอบหืด หรือมีอาการหอบเมื่อเข้าที่ทำงาน แสดงว่าท่านอาจจะแพ้สารเคมีในโรงงาน ผู้ที่ทำงานในโรงงานเหล่านี้จะเสี่ยงต่อการเกิดโรคหอบหืด
• ผู้ที่แพ้ แป้ง ธัญพืช ไม่ควรมีอาชีพ ช่างทำขนมปัง นักเคมี ชาวไร่
• แพ้สัตว์ แมลง เชื้อราไม่ควรมีอาชีพ เลี้ยงสัตว์ พนักงานห้องทดลอง
• แพ้สารเคมี ไม่ควรมีอาชีพ ทำงานเกี่ยวกับน้ำมัน เครื่องเย็น ช่างแต่ผม พนักฟอกย้อม
• แพ้โลหะ และ Isocynates ไม่ควรทำงานกับการพ่นสีรถยนต์ ตู้เย็น เครื่องพิมพ์
• ยา ไม่ควรทำงานในโรงงานยา

สารภูมิแพ้นอกอาคาร Outdoor Allergen
เมื่ออยู่นอกบ้านคุณไม่สามารถควบคุมสิ่งแวดล้อมได้ คุณไม่สามารถทำความสะอาดสนามหญ้า หรือใช้เครื่องกรองอากาศ แต่สิ่งที่คุณสามารถทำได้ก็คือการรับประทานยาอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงสภาวะบางอย่าง สิ่งแวดล้อมนอกบ้านที่เป็นปัญหาได้แก่เกสรดอกไม้ หญ้า ต้นไม้ สปอร์ของรา

เชื้อรา Moulds
เชื้อราสามารถให้หอบหืด โดยเฉพาะสปอร์ของเชื้อราสามารถลอยไปในอากาศ เมื่อคนที่เป็นโรคหอบหืดสูดดมเข้าไปจะเกิดอาการ จาม คัดจมูก แน่นหน้าอก ไอ จนกระทั่งหอบหืด หากท่านแพ้เชื้อราควรจะปฏิบัติดังนี้
• เก็บกวาดหญ้าให้สะอาดหลังจากการตัดหญ้า
• เก็บกวาดใบไม้ที่ร่วงล่นให้หมด
• เก็บกวาดขยะ กระป๋องรอบบ้านให้หมด รวมทั้งวัสดุที่จะอุ้มน้ำ
• ทางเดิน หรือสนามหญ้าไม่ควรให้ชื้นตลอดเวลา

เกสรดอกไม้
เกสรดอกไม้เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ได้บ่อย เกสรอาจจะมาจากดอกไม้ หญ้า เมื่อดูดเข้าไปก็จะเกิดอาการหอบหืดวิธีป้องกัน
• ใช้เครื่องกรองอากาศที่มีแผ่นกรอง HEPA
• ช่วงที่มีเกสรดอกไม้มากให้ปิดหน้าต่างและเปิดเครื่องปรับอากาศ
• งดออกกำลังกายกลางแจ้ช่วงมีเกศรดอกไม้มาก
• ช่วงที่มีเกสรดอกไม้มากเมื่อกลับถึงบ้านให้เปลี่ยนเสื้อ
• หลีกเลี่ยงการปลูกต้นไม้ใกล้หน้าต่าง
• อย่าตากผ้ากลางแจ้ง
• อย่าดมหรือจับต้องดอกไม้ที่คุณสงสัยว่าจะแพ้

อากาศเย็น
ผู้ที่แพ้อากาศเย็น หรือการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิอาจจะเกิดอาการหอบได้ วิธีป้องกันทำได้โดย
• ให้หายใจผ่านทางจมูกเพราะจะทำให้อากาศอุ่นขึ้น
• หากต้องหายใจทางปาก ต้องสวมหน้ากากเพื่อเพิ่มความชื้นให้อากาศ
ช่วงอากาศเย็นให้ออกกำลังกายในบ้าน

เครื่องมือที่ช่วยใช้ในโรคหอบหืด
• เครื่องดูดฝุ่น ผู้ป่วยหอบหืดที่แพ้ฝุ่นควรใช้ชนิดถุงที่อยู่นอกห้องนอนถ้าผู้ป่วยจะดูดฝุ่นเองควรใส่หน้ากากกันฝุ่น
• เครื่องกรองอากาศ ใช้เครื่องกรองที่มี HEPA and Electroststic filter จึงสามารถกันspore ควันบุหรี่ ฝุ่น แต่ไม่สามารถกันไรฝุ่น สารภูมิแพ้จากแมลงสาบ
• Humidifier ไม่ควรใช้เครื่องให้ความชื้นในห้องเพราะจะทำให้เกิดไรฝุ่น
• ไม่ควรใช้เครื่อง Ozone เพราะทำให้เกิดระคายเคืองต่อหลอดลม
• การจำแนกความรุนแรงของโรคหอบหืดเมื่อให้ผู้ป่วยทราบความรุนแรงของโรคว่าอยู่ในขั้นไหนจะทำให้ทราบว่าควรจะได้รับยาอะไรบ้าง

*** ต้องการกำจัดต้นเหตุที่ทำให้เป็นหอบหืด กรุณาติดต่อ คุณพิเชษฐ์ pichet699@gmail.com ***

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น